"บทเรียน..ผ่านไลน์" ครั้งที่ ๓๑/๒๕๖๑
๑๓ ก.ย. ๒๕๖๑
โดย..
ประวิทย์ เปรื่องการ
บทที่ ๑๓
ปกิณกะวินัย
วินัยและการรักษาวินัย
๑. มติ ก.พ., มติ ครม. และความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เกี่ยวกับวินัย
๑) ที่มีอยู่แล้ว
๒) จะมีในอนาคต
(๒) ให้นำมาใช้กับข้าราชการส่วนท้องถิ่นด้วย
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๓๑๓.๓/ว ๘๘๙ ลง ๓๐ ส.ค.๒๕๔๕
หมายเหตุ
เว้นแต่ในเรื่องเดียวกันนั้น ก.กลาง ได้กำหนดไว้เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก
๒. หลักการพิจารณาความผิด "ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ"
(๑) ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนพอสมควร ว่า
๑) มีหน้าที่ราชการ
๒) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยมิชอบ
๓) เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้
๔) มีเจตนา
(๒) โดยความมีเถยจิตหรือเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อันถือเป็นเจตนาพิเศษ
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๖๘๖ ลง ๑๓ ก.ค.๒๕๓๗
หมายเหตุ
ถ้าไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนพอสมควร ไม่ควรลงโทษฐานนี้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ
๓. ปลอมแปลงลายมือชื่อเพื่อนข้าราชการหาประโยชน์ ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๓/ว ๒๒ ลง ๒๒ ก.พ.๒๕๓๒
๔. ข้าราชการทุจริตในการสอบขณะรับข้าราชการ
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ต้องกำชับผู้บังคับบัญชา
(๓) ให้ลงโทษทางวินัยสถานหนัก
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๔๐๑/ว ๕๐ ลง ๑๒ เม.ย.๒๕๑๑
๕. เบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะเดินทาง และเงินอื่นในทำนองเดียวกันเป็นเท็จ
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้พิจารณารายละเอียดเป็นราย ๆ ไป
(๓) ถ้าเจตนาทุจริตฉ้อโกงแน่ชัด (ไม่มีหน้าที่ทำเบิก แต่ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต) ผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(๔) ต้องลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง (ปลดออก/ไล่ออก)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน กพ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ว ๘ ลง ๒๖ ก.ค.๒๕๓๖
๖. ปฏิบัติงานล่าช้า เป็นความผิดทางวินัย ถ้า
(๑) งานคั่งค้าง หรือล่าช้า
(๒) อันเนื่องมาจากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
(๓) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๔) ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษตามควรแก่กรณี
ที่มา : หนังสือกรมเลขาธิการ ครม.ที่ นว ๒๙๓/๒๔๙๕ ลง ๒๗ พ.ย. ๒๔๙๕
๗. ใช้เวลาราชการไปหาความสำราญส่วนตัว
(๑) เป็นเหตุให้งานในหน้าที่คั่งค้าง
(๒) นับเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(๓) ควรพิจารณาโทษสถานหนัก (ปลด/ไล่)
(๔) เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ที่มา : หนังสือกรมสารบัญ ครม.ที่ นว ๒๖๔/๒๔๙๘ ลง ๑๕ ธ.ค.๒๔๙๘
๘. ใช้เวลาราชการไปประกอบอาชีพส่วนตัว
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้ผู้บังคับบัญชากวดขันในเรื่องนี้
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๓๗ ลง ๑ มี.ค.๒๕๒๑
๙. อยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ แล้วละทิ้งหน้าที่เวร
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษให้เหมาะสมกับความผิด
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๑/ว ๑๐๓ ลง ๔ มิ.ย.๒๕๒๘
หมายเหตุ
หากทิ้งหน้าที่เวรและเกิดอัคคีภัยผิดทั้งวินัยร้ายแรงและอาญา
ที่มา : หนังสือกรมเลขาธิการ ครม.ด่วนมาก ที่ นว ๑๐๑/ว ๒๔๙๕ ลง ๑๘ เม.ย.๒๔๙๕
๑๐. ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ในวันหยุดราชการซึ่งเป็นหน้าที่ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยไม่มีเหตุอันสมควร ผิดวินัยฐาน
(๑) ขัดคำสั่งผู้บังคีบบัญชา
(๒) ละทิ้งหน้าที่ราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๓๗๐ ลง ๒๑ มิ.ย.๒๕๓๘.
๑๑. การอยู่เวรรักษาสถานที่ราชการของสตรี ต้องจัดให้อยู่เฉพาะกลางวัน เว้นแต่ผู้มีหน้าที่โดยเฉพาะที่จะต้องปฏิบัติงานในเวลากลางคืนเท่านั้น เช่น แพทย์ พยาบาล เป็นต้น
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ว ๘ ลง ๒๖ ก.ค.๒๕๓๖.
๑๒. การอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ หมายถึง การอุทิศหรือสละเวลาทั้งหมดปฏิบัติราชการตามที่ทางราชการต้องการ รวมถึงเวลานอกเหนือจากเวลาปฏิบัติราชการตามปกติในกรณีราชการมีงานเร่งด่วนจำเป็นด้วย (การรักษาวินัย ข้อ ๑๗)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๕๘๐ ลง ๔ ก.ค.๒๕๔๐.
๑๓. ความแตกต่างระหว่าง "ละทิ้ง" กับ "ทอดทิ้ง" คือ
"ละทิ้ง" ตัวไม่อยู่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ จะลงชื่อหรือไม่ก็ตาม
"ทอดทิ้ง" ไม่เอาเป็นธุระ ไม่เอาใจใส่ ตัวอยู่แต่ไม่ทำงาน (การรักษาวินัย ข้อ ๑๗)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๒๒๙ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๓๗.
๑๔. จะถือว่าขาดราชการ ต้องเป็นกรณีไม่มาทำงานตั้งแต่ครึ่งวันขึ้นไป (ไม่ถึงครึ่งว้นขึ้นไป ถือว่า "มาสาย")
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๗๓๗ ลง ๑๙ ต.ค.๒๕๓๘.
๑๕. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน (พนักงานจ้าง/ลูกจ้าง ๗ วัน) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๑) ไม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอีกเลย ให้ลงโทษไล่ออกย้อนหลังไปถึงวัน (เริ่ม) ขาดราชการ
(๒) กลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอีก ลงโทษปลด/ไล่ออกก็ได้ (พิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป) แต่ต้องไม่ย้อนหลัง
(๓) ทั้งสองกรณีให้นับวันหยุดราชการ (ตรงกลาง) รวมด้วย
ที่มา :
๑. หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลง ๒๔ ธ.ค.๒๕๓๖ (ฉบับเดียวกับกรณี "ทุจริต")
๒. หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๑๐๐๐ ลง ๒๙ พ.ย.๒๕๓๗.
๑๖. การให้ถ้อยคำในการสอบสวนอันเป็นเท็จทั้งในฐานะผู้ถูกกล่าวหาหรือพยาน (หลายครั้งไม่ตรงกัน กลับไปกลับมา) ถือเป็นความผิดทางวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัยตามควรแก่กรณี
ที่มา : สำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๖๑๒/ว ๑ ลง ๒๔ ม.ค.๒๕๒๙.
๑๗. การไว้ผมและแต่งกายของข้าราชการ
(๑) ชายไม่ให้ไว้ผมยาวปิดตีนผม
(๒) หญิงห้ามนุ่งกระโปรงสั้นเหนือเข่า
(๓) ชายหญิงไม่ให้คาดเข็มขัดเหนือสะดือ
(หากฝ่าฝืนเป็นความผิดทางวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบธรรมเนียมของทางราชการ)
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๕๕ ลง ๘ มิ.ย.๒๕๑๖.
๑๘. ไม่ส่งมอบงานในหน้าที่ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง อาจเป็นความผิดทางวินัยได้ เช่น
(๑) ออกจากราชการทุกกรณี เว้นแต่ตาย
(๒) พ้นจากตำแหน่งเดิม
(๓) พักราชการ
(๔) ไปรักษาการตำแหน่งอื่นที่ว่าง
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๓๖ ลง ๑๓ ก.พ.๒๕๒๔.
๑๙. ให้เลิกใช้บริการทางเพศ ระหว่างไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัด ทั้ง
(๑) ข้าราชการส่วนกลาง
(๒) ข้าราชการส่วนภูมิภาค
(๓) ข้าราชการส่วนท้องถิ่น
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๒๙ ลง ๑๙ ก.พ. ๒๕๒๘.
๒๐. การเสพสุราที่ถือเป็นความผิดวินัยฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เช่น
(๑) เสพสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ
(๒) เมาสุราเสียราชการ
(๓) เมาสุราในที่ชุมชนจนเกิดเรื่องเสียหาย หรือเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นว ๒๐๘/๒๔๙๖ ลง ๑ ก.ย.๒๔๙๖.
สวัสดี
----------
๑. กรมการปกครอง, คู่มือการดำเนินการทางวินัยพนักงานส่วนท้องถิ่น, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์อาสารักษาดินแดน), ๒๕๔๕.
๒. สำนักงาน ก.พ., ตอบข้อหารือเกี่ยวกับวินัยข้าราชการพลเรือน, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สวัสดิการ ก.พ.), ๒๕๔๐.
๓. สำนักงาน ก.พ., รวมมติ ครม. มติ ก.พ.ที่เกี่ยวกับวินัย, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สวัสดิการ ก.พ.), ๒๕๕๒.
๑๓ ก.ย. ๒๕๖๑
โดย..
ประวิทย์ เปรื่องการ
บทที่ ๑๓
ปกิณกะวินัย
วินัยและการรักษาวินัย
๑. มติ ก.พ., มติ ครม. และความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เกี่ยวกับวินัย
๑) ที่มีอยู่แล้ว
๒) จะมีในอนาคต
(๒) ให้นำมาใช้กับข้าราชการส่วนท้องถิ่นด้วย
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๓๑๓.๓/ว ๘๘๙ ลง ๓๐ ส.ค.๒๕๔๕
หมายเหตุ
เว้นแต่ในเรื่องเดียวกันนั้น ก.กลาง ได้กำหนดไว้เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก
๒. หลักการพิจารณาความผิด "ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ"
(๑) ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนพอสมควร ว่า
๑) มีหน้าที่ราชการ
๒) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยมิชอบ
๓) เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้
๔) มีเจตนา
(๒) โดยความมีเถยจิตหรือเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อันถือเป็นเจตนาพิเศษ
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๖๘๖ ลง ๑๓ ก.ค.๒๕๓๗
หมายเหตุ
ถ้าไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนพอสมควร ไม่ควรลงโทษฐานนี้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ
๓. ปลอมแปลงลายมือชื่อเพื่อนข้าราชการหาประโยชน์ ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๓/ว ๒๒ ลง ๒๒ ก.พ.๒๕๓๒
๔. ข้าราชการทุจริตในการสอบขณะรับข้าราชการ
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ต้องกำชับผู้บังคับบัญชา
(๓) ให้ลงโทษทางวินัยสถานหนัก
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๔๐๑/ว ๕๐ ลง ๑๒ เม.ย.๒๕๑๑
๕. เบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะเดินทาง และเงินอื่นในทำนองเดียวกันเป็นเท็จ
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้พิจารณารายละเอียดเป็นราย ๆ ไป
(๓) ถ้าเจตนาทุจริตฉ้อโกงแน่ชัด (ไม่มีหน้าที่ทำเบิก แต่ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต) ผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(๔) ต้องลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง (ปลดออก/ไล่ออก)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน กพ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ว ๘ ลง ๒๖ ก.ค.๒๕๓๖
๖. ปฏิบัติงานล่าช้า เป็นความผิดทางวินัย ถ้า
(๑) งานคั่งค้าง หรือล่าช้า
(๒) อันเนื่องมาจากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
(๓) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๔) ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษตามควรแก่กรณี
ที่มา : หนังสือกรมเลขาธิการ ครม.ที่ นว ๒๙๓/๒๔๙๕ ลง ๒๗ พ.ย. ๒๔๙๕
๗. ใช้เวลาราชการไปหาความสำราญส่วนตัว
(๑) เป็นเหตุให้งานในหน้าที่คั่งค้าง
(๒) นับเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(๓) ควรพิจารณาโทษสถานหนัก (ปลด/ไล่)
(๔) เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ที่มา : หนังสือกรมสารบัญ ครม.ที่ นว ๒๖๔/๒๔๙๘ ลง ๑๕ ธ.ค.๒๔๙๘
๘. ใช้เวลาราชการไปประกอบอาชีพส่วนตัว
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้ผู้บังคับบัญชากวดขันในเรื่องนี้
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๓๗ ลง ๑ มี.ค.๒๕๒๑
๙. อยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ แล้วละทิ้งหน้าที่เวร
(๑) เป็นความผิดทางวินัย
(๒) ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษให้เหมาะสมกับความผิด
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๑/ว ๑๐๓ ลง ๔ มิ.ย.๒๕๒๘
หมายเหตุ
หากทิ้งหน้าที่เวรและเกิดอัคคีภัยผิดทั้งวินัยร้ายแรงและอาญา
ที่มา : หนังสือกรมเลขาธิการ ครม.ด่วนมาก ที่ นว ๑๐๑/ว ๒๔๙๕ ลง ๑๘ เม.ย.๒๔๙๕
๑๐. ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ในวันหยุดราชการซึ่งเป็นหน้าที่ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยไม่มีเหตุอันสมควร ผิดวินัยฐาน
(๑) ขัดคำสั่งผู้บังคีบบัญชา
(๒) ละทิ้งหน้าที่ราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๓๗๐ ลง ๒๑ มิ.ย.๒๕๓๘.
๑๑. การอยู่เวรรักษาสถานที่ราชการของสตรี ต้องจัดให้อยู่เฉพาะกลางวัน เว้นแต่ผู้มีหน้าที่โดยเฉพาะที่จะต้องปฏิบัติงานในเวลากลางคืนเท่านั้น เช่น แพทย์ พยาบาล เป็นต้น
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ว ๘ ลง ๒๖ ก.ค.๒๕๓๖.
๑๒. การอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ หมายถึง การอุทิศหรือสละเวลาทั้งหมดปฏิบัติราชการตามที่ทางราชการต้องการ รวมถึงเวลานอกเหนือจากเวลาปฏิบัติราชการตามปกติในกรณีราชการมีงานเร่งด่วนจำเป็นด้วย (การรักษาวินัย ข้อ ๑๗)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๕๘๐ ลง ๔ ก.ค.๒๕๔๐.
๑๓. ความแตกต่างระหว่าง "ละทิ้ง" กับ "ทอดทิ้ง" คือ
"ละทิ้ง" ตัวไม่อยู่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ จะลงชื่อหรือไม่ก็ตาม
"ทอดทิ้ง" ไม่เอาเป็นธุระ ไม่เอาใจใส่ ตัวอยู่แต่ไม่ทำงาน (การรักษาวินัย ข้อ ๑๗)
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๒๒๙ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๓๗.
๑๔. จะถือว่าขาดราชการ ต้องเป็นกรณีไม่มาทำงานตั้งแต่ครึ่งวันขึ้นไป (ไม่ถึงครึ่งว้นขึ้นไป ถือว่า "มาสาย")
ที่มา : หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๗๓๗ ลง ๑๙ ต.ค.๒๕๓๘.
๑๕. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน (พนักงานจ้าง/ลูกจ้าง ๗ วัน) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๑) ไม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอีกเลย ให้ลงโทษไล่ออกย้อนหลังไปถึงวัน (เริ่ม) ขาดราชการ
(๒) กลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอีก ลงโทษปลด/ไล่ออกก็ได้ (พิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป) แต่ต้องไม่ย้อนหลัง
(๓) ทั้งสองกรณีให้นับวันหยุดราชการ (ตรงกลาง) รวมด้วย
ที่มา :
๑. หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลง ๒๔ ธ.ค.๒๕๓๖ (ฉบับเดียวกับกรณี "ทุจริต")
๒. หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๑๐๐๐ ลง ๒๙ พ.ย.๒๕๓๗.
๑๖. การให้ถ้อยคำในการสอบสวนอันเป็นเท็จทั้งในฐานะผู้ถูกกล่าวหาหรือพยาน (หลายครั้งไม่ตรงกัน กลับไปกลับมา) ถือเป็นความผิดทางวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัยตามควรแก่กรณี
ที่มา : สำนักงาน ก.พ.ที่ นร ๐๖๑๒/ว ๑ ลง ๒๔ ม.ค.๒๕๒๙.
๑๗. การไว้ผมและแต่งกายของข้าราชการ
(๑) ชายไม่ให้ไว้ผมยาวปิดตีนผม
(๒) หญิงห้ามนุ่งกระโปรงสั้นเหนือเข่า
(๓) ชายหญิงไม่ให้คาดเข็มขัดเหนือสะดือ
(หากฝ่าฝืนเป็นความผิดทางวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบธรรมเนียมของทางราชการ)
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๕๕ ลง ๘ มิ.ย.๒๕๑๖.
๑๘. ไม่ส่งมอบงานในหน้าที่ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง อาจเป็นความผิดทางวินัยได้ เช่น
(๑) ออกจากราชการทุกกรณี เว้นแต่ตาย
(๒) พ้นจากตำแหน่งเดิม
(๓) พักราชการ
(๔) ไปรักษาการตำแหน่งอื่นที่ว่าง
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๓๖ ลง ๑๓ ก.พ.๒๕๒๔.
๑๙. ให้เลิกใช้บริการทางเพศ ระหว่างไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัด ทั้ง
(๑) ข้าราชการส่วนกลาง
(๒) ข้าราชการส่วนภูมิภาค
(๓) ข้าราชการส่วนท้องถิ่น
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๒๙ ลง ๑๙ ก.พ. ๒๕๒๘.
๒๐. การเสพสุราที่ถือเป็นความผิดวินัยฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เช่น
(๑) เสพสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ
(๒) เมาสุราเสียราชการ
(๓) เมาสุราในที่ชุมชนจนเกิดเรื่องเสียหาย หรือเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ที่มา : หนังสือสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นว ๒๐๘/๒๔๙๖ ลง ๑ ก.ย.๒๔๙๖.
สวัสดี
----------
๑. กรมการปกครอง, คู่มือการดำเนินการทางวินัยพนักงานส่วนท้องถิ่น, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์อาสารักษาดินแดน), ๒๕๔๕.
๒. สำนักงาน ก.พ., ตอบข้อหารือเกี่ยวกับวินัยข้าราชการพลเรือน, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สวัสดิการ ก.พ.), ๒๕๔๐.
๓. สำนักงาน ก.พ., รวมมติ ครม. มติ ก.พ.ที่เกี่ยวกับวินัย, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สวัสดิการ ก.พ.), ๒๕๕๒.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น